Sunday 6 March 2016

นิทานคุณธรรมสอนใจ "คนฉลาดกับคนโง่ ไปร่อนทอง"

วันนี้เอา นิทานสอนใจ มาให้อ่านกันอีกเรื่องหนึ่ง มาจากหนังสือชื่อ "นิทานคุณธรรม" เขียนและเรียบเรียงโดย นิทัศน์ ธีระวิทย์ เป็นของสำนักพิมพ์ book smile  เรื่องราวมีดังนี้,,,

คนฉลาดกับคนโง่ไปร่อนทองด้วยกัน หลังจากที่ร่อนทองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับบ้าน ซึ่งแต่ละคนก็นำเอาทองที่ร่อนได้ และถุงน้ำหนังซึ่งบรรจุน้ำไว้เต็ม ติดตัวกลับมาด้วย เพราะในการเดินทางกลับนั้นจะต้องผ่านทะเลทราย ซึ่งน้ำถือว่าเป็นสิ่งที่ค่ามาก ฉะนั้น พวกเขาจะดื่มทีละแค่อึกเดียว

คนฉลาดเห็นคนโง่ไม่ค่อยดื่มน้ำ จึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ทอง จึงพูดว่า

“ข้ายอมให้เจ้าดื่มน้ำอึกหนึ่ง ขอเพียงแค่เจ้าให้ทองข้าหนึ่งตำลึงก็พอ”

คนโง่ไม่ว่าอะไรเลย และผงกหัวตกลง

ไม่นานต่อมา คนโง่ก็ถามคนฉลาดว่า “ให้ข้าดื่มน้ำอีกสักอึกได้ไหม”

คนฉลาดตอบอย่างร่าเริงว่า “ได้สิ แต่คราวนี้ต้องแลกกับทองสองตำลึงนะ”

คนโง่ก็ตอบกลับทันทีว่า “ได้อยู่แล้ว”

ทั้งคู่ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ คนฉลาดยอมดื่มน้ำน้อยลงอีกหน่อย แต่ก็แลกกับทองของคนโง่มาได้ทั้งหมด

คนฉลาดแบงทองหนักขึ้นทุกที แต่ก็นึกดีใจ เทียบกับไปร่อนทองแล้วก็คือว่าคุ้มค่ามาก และไม่ต้องเสียเวลามากด้วย ซ้ำยังไม่ต้องเหนื่อยแทบเป็นแทบตายในการร่อนทอง นับว่ารวยทางลัดได้จริงๆ แต่คนโง่กลับไม่รู้สึกอะไรเช่นนั้น รู้สึกแค่ว่า ตอนนี้ตัวเบามาก และมีความสุขจริงๆ

คนฉลาดนึกในใจว่า “มันโง่จริงๆ “

ทั้งสองเดินทางมาจนเกือบถึงขอบทะเลทรายแล้ว แต่คนฉลาดทนความทรมานจากความกระหายน้ำต่อไปอีกไม่ไหว เขาล้มลงไปกองกับพื้น คนโง่ให้เขาดื่มน้ำอีกอึกเล็กๆ เขาจึงฟื้นขึ้นมาอย่างสะลืมสะลือ

คนฉลาดหมดเรี่ยวแรง เหลือแต่ลมหายใจ พูดกับคนโง่ว่า

“ข้ายอมให้ทองหนึ่งตำลึงแลกกับน้ำหนึ่งอึกของเจ้า”

คนโง่เขย่าถุงน้ำของตัวเองแล้วก็สั่นหัว

คนฉลาดด้วยความกระหายน้ำอย่างเต็มที่แล้ว ก็เลยยอมบอกว่า “ทองสองตำลึงแลกกับน้ำหนึ่งอึกนะ”

คนโง่ยังคงสั่นหัว

“งั้นข้าให้ทองเจ้าทั้งหมดแลกกับน้ำหนึ่งอึกของเจ้า ตกลงหรือไม่”

คนโง่ยังคงสั่นหัว พร้อมกับชี้ไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “เจ้าดูสิ”

คนฉลาดโงหัวขึ้นมาดู ไม่ไกลนักมีแม่น้ำอยู่สายหนึ่ง คนฉลาดตะเกียกตะกายคลานไปได้ไม่กี่ก้าว แข็งใจพูดออกมาว่า

“ตอนนี้ข้าต้องการแค่น้ำเพื่อให้รอดชีวิตเท่านั้น”

คนโง่เกิดถุงน้ำยื่นให้คนฉลาดดู พลางสั่นหัวและพูดว่า

“ที่ข้าสั่นหัวปฏิเสธ ก็เพราะ ไม่มีน้ำเหลือแล้ว”

นิทานเรื่องนี้ทิ้งให้จบไว้เพียงแค่นี้ ผู้เขียนคงต้องการให้ท่านผู้อ่านคิดกันต่อเองว่า ตกลงแล้วใครที่โง่ ใครที่ฉลาดกันแน่ จริงๆ แล้วเรื่องของความโลภในทรัพย์สินเงินทองนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เราตาบอด และทำให้เรามองไม่เห็นสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เรามักจะคิดแค่เพียงว่า ถ้าเรารวย และมีเงินทองมากมาย ก็จะทำให้เราทำอะไรก็ได้

แต่หารู้ไม่ว่า สถานการณ์ที่แตกต่างกันไป บางครั้งมีเงินมากมายก็ไม่สามารถช่วยอะไรเราได้เลย ดังนั้นจะทำอะไรจงพิจารณาให้ถ้วนถี่ และจงอย่าให้ความโลภมาทำให้เราหลงผิด คิดผิด และสุดท้ายเราอาจจะตายเหมือนกับคนฉลาดในเรื่องซึ่งมีทองอยู่เต็มตัว แต่ไม่สามารถที่จะรักษาชีวิตไว้ได้

CR: โดย อจ. ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร: Think People Consulting

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

เป็นไงค่ะ ดิฉันชอบเรื่องนี้มากๆ เลย